โลกของบรรจุภัณฑ์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งจากแรงผลักของเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และจากแรงดึงของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกและความยั่งยืนมากขึ้นกว่าเดิม หนึ่งในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดเจนที่สุด คือ ถุงฝาเกลียว (Spout Pouch) ซึ่งจากเดิมเคยถูกใช้เฉพาะกับอาหารเด็ก น้ำผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์บริโภคขนาดเล็กเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลับขยายเข้าสู่หลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เชิงเทคนิค เช่น อาหารสัตว์ น้ำมันหล่อลื่น หรือสารเคมีสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก
อุตสาหกรรมอาหารสัตว์
สินค้ากลุ่มนี้เปลี่ยนมาใช้ถุงฝาเกลียวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอาหารเปียกและอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น อาหารสุนัขและแมวแบบเพียวเร่ อาหารเหลวผสมวิตามิน ซอสปรุงรสสำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะช่วยยืดอายุอาหารหลังเปิด ป้องกันกลิ่นรั่ว และลดปัญหาการใช้ซองจำนวนมากต่อวัน เพียงใช้ถุงฝาเกลียวแทนซองฉีก เพื่อบีบหรือเทอาหารได้พอดี และสามารถปิดเก็บไว้ใช้ซ้ำโดยไม่ปนเปื้อน
อุตสาหกรรมน้ำมันและสารหล่อลื่น
อุตสาหกรรมน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาหล่อเย็น และน้ำยาทำความสะอาดชิ้นส่วนเครื่องจักร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่หันมาใช้ถุงฝาเกลียวมากขึ้นในช่วงหลัง เนื่องจากต้องการลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ ด้วยการบรรจุในถุงฝาเกลียวขนาด 1 – 5 ลิตร พร้อมหัวเทที่ควบคุมได้ ช่วยให้ผู้ใช้เติมของเหลวได้อย่างแม่นยำ ป้องกันการหกหรือเปื้อนในขณะใช้งานและลดขยะจากภาชนะพลาสติกแข็งขนาดใหญ่
อุตสาหกรรมเคมีและวัสดุอุตสาหกรรม
กลุ่มนี้ใช้ถุงฝาเกลียวเพื่อบรรจุสารเคมีชนิดเหลวหรือเจลที่ต้องการการปิดผนึกอย่างแน่นหนา โดยใช้ถุงฝาเกลียวขนาดกลาง – ใหญ่พร้อมฝาปิดกันรั่ว บางรุ่นใช้ฝาเกลียวพร้อมหัวจ่ายสำหรับต่อเข้ากับเครื่องมือโดยตรง เพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการหกหรือสูญเสียสารเคมี เช่น สี น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะทาง เคมีภัณฑ์ในงานซ่อมบำรุง และวัสดุป้องกันสนิม
ธุรกิจดังกล่าวมีจุดร่วมกัน คือ ความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการบีบ การเท โดยไม่ปนเปิ้อน ระหว่างการขนส่งระยะทางต่าง ๆ และหลังใช้งาน
3 มิติความยั่งยืนที่ธุรกิจได้จับต้องได้ในถุงฝาเกลียว

แนวโน้มการประยุกต์ใช้ถุงฝาเกลียวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความแตกต่าง แต่เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน ซึ่งสามารถสรุปเป็นมิติ ดังนี้
1. ฟังก์ชันปกป้อง ควบคุม และยืดอายุสินค้า
หัวใจของถุงฝาเกลียวอยู่ที่โครงสร้างฟิล์มแบบหลายชั้น (multi-layer barrier) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันให้สินค้าภายในปลอดจากอากาศ ความชื้น และแสง ซึ่งช่วยคงคุณภาพ กลิ่น และรสชาติของสินค้าไว้ได้ยาวนานกว่าแพ็กเกจทั่วไป เหมาะสำหรับสินค้าประเภทของเหลวหรือกึ่งเหลว เพราะฝาเกลียวยังทำหน้าที่ควบคุมการไหล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบีบ เท หรือกะปริมาณได้อย่างแม่นยำโดยไม่หกเลอะ จึงตอบโจทย์ทั้งด้านความสะอาดและความปลอดภัยของผู้ใช้
อีกทั้งถุงชนิดนี้ยังสามารถใช้กับกระบวนการบรรจุร้อนหรือระบบบรรจุปลอดเชื้อได้ ทำให้เหมาะกับทั้งอาหาร
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และของใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูง
2. ประสบการณ์ความสะดวกและคุณค่าที่ผู้ใช้รู้สึกได้
ผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับความง่ายและความสะดวกในการใช้ โดยผู้ใช้สามารถเปิด-ปิดได้สะดวก ใช้งานได้หลายครั้งโดยไม่เสียคุณภาพสินค้า บีบเทโดยไม่เปื้อนมือ
ในแง่การสื่อสารแบรนด์ บรรจุภัณฑ์แบบนี้ยังเปิดโอกาสให้ดีไซน์ได้อย่างอิสระ ทั้งรูปทรง สี หรือการพิมพ์ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น QR code ที่บอกวิธีใช้ หรือข้อมูลการรีไซเคิล จึงกลายเป็นช่องทางใหม่ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในระดับที่ลึกขึ้น
บรรจุภัณฑ์จึงไม่เพียงใช้งานง่าย แต่ยังสร้างความผูกพันและสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจในรายละเอียด
3. ลดวัสดุและขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน
อีกหนึ่งคุณค่าที่ผลักดันให้ถุงฝาเกลียวได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว คือ บทบาทของมันในการขับเคลื่อนแนวคิด Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดของเสียจากการผลิต
ถุงฝาเกลียวในปัจจุบันจำนวนมากถูกพัฒนาให้ใช้วัสดุน้อยลง แต่แข็งแรงขึ้น ซึ่งในบางรุ่นเปลี่ยนมาใช้วัสดุแบบชั้นเดียว (mono-material) ซึ่งสามารถรีไซเคิลง่ายกว่าแบบหลายชั้น บางรุ่นออกแบบให้เป็นถุงรีฟิล สำหรับเติมลงในขวดเดิม ลดการผลิตขวดพลาสติกแข็งใหม่ และลดน้ำหนักในการขนส่ง
เมื่อเทียบกับขวดพลาสติกทั่วไป ถุงฝาเกลียวสามารถลดปริมาณวัสดุได้ราว 30 – 60% และลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตและขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและเกณฑ์ ESG ที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญ
ถุงฝาเกลียว Hoei เพื่อธุรกิจต่าง ๆ ที่สามารถเสริมความพิเศษเฉพาะตัวและรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อเศรษฐกิจของโลกที่ยั่งยืน

เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าถุงฝาเกลียวไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ แต่เป็นการเปลี่ยนบทบาทของบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการขนส่ง และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
ถุงฝาเกลียวจึงเปรียบได้กับสื่อกลางระหว่างสินค้า ผู้ใช้ และโลกที่สะท้อนแนวคิดการออกแบบอย่าง รับผิดชอบ (Responsible Design) ทั้งในแง่ฟังก์ชันและคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์ที่เน้นความสะดวกและสุขอนามัย น้ำมันหล่อลื่นที่ต้องการความปลอดภัยและเทแม่นยำหรือเคมีภัณฑ์ที่ต้องควบคุมการรั่วซึมและลดของเสีย บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วนในรูปแบบเดียว
ในระยะยาว แนวโน้มการใช้ถุงฝาเกลียวคาดว่าจะขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นของการใช้งานและการขนส่ง ทั้งนี้ธุรกิจสามารถเลือกใช้ถุงฝาเกลียวจาก Hoei ซึ่งมีประสิทธิภาพด้วยกระบวนการผลิตจากพลาสติกหลายชั้น สามารถออกแบบดีไซน์ตามความต้องการ และนำส่งสินค้าให้ถึงหน้าบริษัทหรือโรงงาน
เพราะบรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงระหว่างประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง ถือเป็นทิศทางใหม่ของโลกบรรจุภัณฑ์ที่อุตสาหกรรมไทยเองกำลังมุ่งหน้าไป
